top of page
รูปภาพนักเขียนUNCOMMON GROUP

5 สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเติบโต เป็นคนที่คุณอยากเป็นจริง ๆ

อัปเดตเมื่อ 16 มิ.ย. 2565

คุณมองเห็นตัวเองในอนาคตเป็นอย่างไร? เชื่อว่าในชีวิตที่ผ่านมาทุกคนต้องพบเจอทั้งความสุขและความผิดหวัง หลายอย่างที่อยากให้เป็นกลับไม่เป็นอย่างที่คิด วันนี้คุณอาจเดินหน้าไปสองก้าว แต่กลับรู้สึกว่าเดินถอยหลังสามก้าวในวันพรุ่งนี้ ถึงแม้ว่าชีวิตจะขึ้นๆ ลงๆ แต่หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต คุณจะสามารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นได้ในสักวันหนึ่งแน่ๆ แม้ว่าการเดินทางของชีวิจคุณจะมีช่วงที่ขึ้นและลงอย่างไร แต่รูปแบบการรับมือจะบ่งบอกว่าตอนนี้คุณรับมือและเติบโตได้แบบที่คุณอยากเป็นจริง ๆ หรือเปล่า

.

และนี่คือ 5 สัญญาณที่บอกว่า “คุณกำลังจะเติบโตเป็นคนที่ตัวเองอยากเป็น” และถ้าเจอแล้วอย่ามองข้าม จงให้ความสำคัญกับมันซะ!




.

การแข่งขันกับคนอื่นทำให้คุณหดหู่ แต่การแข่งขันกับตัวเองทำให้คุณดีขึ้น

จงเป็นคนที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาทุกคนมักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แล้วก็มารู้สึกแย่กับตัวเองว่าทำไมถึงไม่ดีเท่าคนนู้นคนนี้ แต่ในทางกลับกันคนที่คุณควรจะแข่งและเปรียบเทียบคือ “ตัวคุณเอง” และต่อให้คุณมองย้อนกลับไปมองตัวเองในอดีตก็อย่าไปคิดว่า “ทำไมตอนนั้นถึงทำแบบนั้น หรือทำไมตอนนั้นถึงคิดไม่ได้” เพราะแค่ตอนนั้นคุณยังโตไม่มากพอเท่านั้นเอง ให้คุณในอดีตเป็นเพียงเส้นกำหนดให้คุณเติบโตมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นพอ




ไม่ว่าใครก็สามารถตั้งเป้าหมายและวางแผนชีวิตได้ แต่สิ่งที่ต่างระหว่างคนที่ทำได้สำเร็จและล้มเหลวคือ “ความสม่ำเสมอ”

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีไฟจะทำอะไรสักอย่างทุกคนมักจะทุ่มเทมันอย่างเต็มที่ในช่วงแรกก่อนจะหมดไฟไป ทุกคนอยากปรับปรุงตัว แต่น้อยคนที่จะอยากเหนื่อย แต่แน่นอนว่าถ้าคุณอยากเติบโต คุณจำเป็นต้องเหนื่อย! ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ตัวเองได้รู้จักปรับตัวและทำมันอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย เช่น ออกกำลังกายวันละ 20 นาที, กินอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น, งดทานแอลกอฮอล หรือ ฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน ทั้งหมดนี้หากคุณทำด้วยความสม่ำเสอจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้คุณอย่างแน่นอน




“การเปลี่ยนแปลงที่ดูเล็กน้อยและไม่สำคัญในตอนแรก จะรวมกันกลายเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง หากคุณเต็มใจจะอยู่กับมันไปอีกหลายปี ”, James Clear นักเขียนชื่อดัง

ขนาดกรุงโรมยังไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ชีวิตของคุณก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน ขอแค่คุณตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดเอาไว้และทำมันไปเรื่อยๆ อย่าท้อถอยหากเห็นมันเปลี่ยนแปลงแค่วันละ 1-2% เพราะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ นั้นจะนำคุณไปสู่เป้าหมายที่ตั้งได้ แต่หลายคนมักพลาดและหยุดเติบโตด้วยความสำเร็จระยะสั้นหรือความสำเร็จชั่วพริบตา แต่หลายครั้งหากไม่เห็นความสำเร็จเลยก็จะเกิดความท้อถอย ขออย่าคิดอย่างนั้นแม้การเปลี่ยนแปลงจะยังไม่เห็นผล แต่ขอให้เชื่อในตัวเองว่าคุณจะทำมันสำเร็จได้ในสักวันอย่างแน่นอน




สิ่งรอบตัว 3 สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้คือ สังคม = ใครที่คุณอยู่ด้วยทุกวัน, กายภาพ = คุณกำลังอยู่ท่ามกลางอะไร, จิตวิทยา = คุณเล่าเรื่องอะไรให้ตัวเองฟัง

ทั้ง 3 สิ่งนี้เป็นตัวทำนายว่าชีวิตของคุณจะไปได้ไกลมากแค่ไหน เมื่อโตขึ้นคุณจำเป็นต้องเลือกคนที่คุณจะอยู่ด้วย ทัศนคติของพวกเขาจะส่งผลต่อคุณ ว่าคุณจะมองโลกในแง่บวกหรือลบ ,กายภาพคือสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ คุณกินอะไร บ้านคุณรกไหม มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพทานหรือเปล่า รวมไปถึงเรื่องจิตใจที่คุณกำลังใจดีกับตัวเอง และมองพลังงานดีๆ ให้ตัวเองมากแค่ไหน ยิ่งคุณสร้าง 3 สิ่งรอบตัวให้ดีเท่าไหร่ ชีวิตคุณก็จะยิ่งไปได้ไกลมากเท่านั้น




คุณเริ่มหาบทเรียนออนไลน์ หรือ Podcast ฟังเพื่อเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง

หลายคนเมื่อจบจากมหาลัยก็รู้จักไม่อยากจะเรียนหนังสือต่อเพราะรู้สึกว่าเบื่อหน่ายเต็มที แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือ การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด คุณยังไม่รู้อะไรอีกมากบนโลกใบนี้ และในจุดนี้คือคุณเริ่มคิดได้และมองหาโอกาสให้ตัวเองในการหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำไปต่อยอดในด้านต่างๆ คุณเริ่มเสพติดการเรียนรู้และไม่กลัวการที่จะลองทำอะไรที่เสี่ยงหรืออะไรใหม่ๆ และใส่ใจกับความรู้มากกว่าเรื่องของเพื่อนบนโซเชียลมีเดีย

.

ทั้งหมดนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเติบโตเป็นคนที่ตัวเองอยากเป็น และคุณกำลังจะรักตัวเองมากขึ้น เพราะมุมมองความคิดของคุณได้เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หากคุณเริ่มพบสัญญาณเหล่านี้ขอให้รักษาการกระทำ ความคิด มุมมอง เหล่านี้เอาไว้ อยากแปลกใจหากมีอะไรหลายอย่างในชีวิตเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะสิ่งที่เคยทำ หรือเพื่อนที่เคยคบ แม้บางครั้งคุณต้องเสียอะไรบางอย่างในชีวิตไป แต่ในเมื่อการเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง คุณต้องยอมรับและยินดีกับตัวคุณเองในแบบฉบับที่ดีที่สุดของตัวเองแค่นั้นก็พอ

.

ที่มา : https://bit.ly/3MJtKMP

ดู 560 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page